อย. แจงทำน้ำส้มขายเอง ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตกับ อย. แต่หากผลิตในสถานที่หนึ่งแล้วส่งไปขายตามร้านค้าต่างๆ ต้องขออนุญาต วันนี้ (18 มิ.ย. 64) นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวกรณีการขออนุญาตสถานที่ผลิตน้ำส้มนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า กรณีที่ผู้ผลิตทำขาย และจำหน่ายโดยตรงกับผู้บริโภค ไม่จำเป็นต้องมาขออนุญาตกับ อย. แต่ต้องดำเนินการให้ถูกสุขลักษณะ
แต่สำหรับน้ำส้มที่ผลิตบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ปิดสนิทแล้วส่งไปขายตามร้านค้าต่างๆ ต้องขออนุญาตจาก อย. ก่อน
และต้องมีฉลากแสดงชื่อสินค้า สถานที่ผลิต ส่วนประกอบ รวมถึงมีเลข อย. 13 หลักที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ซึ่งผู้ประกอบการสามารถศึกษารายละเอียดการยื่นคำขอจากคู่มือประชาชน ที่มีรายละเอียดขั้นตอนการขออนุญาต การตรวจประเมิน รวมทั้งเอกสารที่ต้องเตรียมไว้อย่างละเอียด
ทั้งนี้ อย. ยินดีให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการทุกราย
ผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ส่วนผู้ประกอบการในต่างจังหวัด ติดต่อขออนุญาตที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)
วาโก้ เตือนอย่าหลงเชื่อ เพจปลอม เป็นห่วงลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากพิษการระบาดของเพจและเว็บขายสินค้าลอกเลียนแบบ กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน 2564 – บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตชุดชั้นใน วาโก้ เจอพิษการระบาดของเพจและเว็บขายสินค้าวาโก้ลอกเลียนแบบ หรือสินค้าปลอมมาอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งเตือนลูกค้าเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่มาหลากหลายรูปแบบ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดทรัพย์สิน หรือได้รับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จริงๆ แล้วก็ไม่ได้แปลกใจอะไรแต่ต้องออกมาพูดบ้าง เพราะเป็นห่วงลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการหลงเชื่อเพจปลอม”
“วาโก้ดำเนินธุรกิจมาถึง 51 ปีในไทยในฐานะผู้นำธุรกิจชุดชั้นในสตรี แบรนด์ที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในใจผู้หญิงไทย จึงเป็นที่จับจ้องของมิจฉาชีพในการสร้างเพจปลอมหรือช่องทางขายออนไลน์อื่นๆ ขึ้นมา เพื่อหลอกลวงผู้บริโภคในการโอนเงินหรือได้สินค้าปลอม ยิ่งการขายในราคาถูก พร้อมอวดอ้างคุณภาพจากแบรนด์วาโก้ คือปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ”
“แน่นอนผลจากเศรษฐกิจยุคโควิด-19 การใช้จ่ายอย่าง “ประหยัด” คือวิธีรับมือกับวิกฤต นอกจากจะประหยัดแล้วต้องคุ้มค่ากับสินค้าที่ได้มาตรฐาน วาโก้จึงขอใช้วิกฤตการระบาดของเพจปลอมเพื่อเป็นโอกาสในการชี้แจงว่า เราเข้าใจพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปจากผลกระทบครั้งนี้ จึงจัดแคมเปญสินค้าราคาพิเศษออกมามากมาย เพื่อให้ผู้หญิงทุกวัยได้ใส่วาโก้ในราคาประหยัดและคุ้มค่า ด้วยการพัฒนาวัตถุดิบและนวัตกรรมการผลิต รวมถึงตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน”
“อีกทั้งสำรวจความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ ชื่อของ “วาโก้” จึงการันตีคุณภาพทั้งเรื่องอายุการใช้งาน ฟังก์ชันและดีไซน์ที่โดดเด่น โดยลูกค้าไม่ต้องเสียเงินฟรีจากการหลอกลวงทางเว็บหรือเพจปลอม”
‘อัจฉริยะ’ ฟ้อง ‘หมอบุญ’ กรณีดีลไฟเซอร์ 20 ล้านโดส
อัจฉริยะ หอบหลักฐานเข้า ฟ้อง หมอบุญ ชี้ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือ เฟกนิวส์ ในกรณีเกี่ยวข้องกับดีลไฟเซอร์ 20 ล้านโดส
นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าแจ้งความ ให้ดำเนินคดีอาญากับนพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ในข้อหาความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในประเด็นการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มาร้องให้ดำเนินคดีกับนพ.บุญ ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือเฟกนิวส์ โดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จ พร้อมนำหลักฐานเป็นไฟล์คลิปเสียงยูทูบสื่อออนไลน์ชื่อดัง เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เอกสารประกอบคำให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เอกสารเปรียบเทียบหน่วยงานของรัฐกับนพ.บุญ และเอกสารหุ้นของบมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ช่วงที่ราคาหุ้นขึ้นและตก แล้วยังพบการแถลงข่าวของนพ.บุญ ในหลายครั้งที่เข้าข่ายลักษณะการปล่อยข่าวปลอม
เนื่องจาก นพ.บุญอ้างว่าสามารถเจรจาติดต่อขอซื้อวัคซีนไฟเซอร์จากบริษัทผู้ผลิตโดยตรงในต่างประเทศ เพื่อขอซื้อวัคซีนหลายล้านโดสเข้ามาให้บริการแก่ลูกค้าของโรงพยาบาลในเครือได้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด หรือเอกสารในการเจรจาได้ ต่อมาบริษัทผู้ผลิตโดยตรงออกมาปฏิเสธกับสื่อต่างประเทศว่าไม่ได้เจรจากับบริษัทในเครือหรือพูดคุยเจรจากับนพ.บุญ
นายอัจฉริยะ แสดงความมั่นใจว่า ไม่มีการซื้อวัคซีนระหว่างหมอบุญกับบริษัทไฟเซอร์แต่อย่างใด เพราะการซื้อวัคซีนต้องซื้อระหว่างรัฐต่อรัฐเท่านั้น และการที่อ้างว่าดีลกับหน่วยงานรัฐที่นำเข้าได้ ที่มีอยู่ 5 หน่วย ก็ปฏิเสธทั้งหมด รวมถึงบริษัทขายวัคซีนเองก็ปฏิเสธ ส่วนที่บอกว่ามีการถูกยึดเงินมัดจำ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเงินของใคร เพราะบริษัทของโรงพยาบาลก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้เงินโรงพยาบาลในการมัดจำวัคซีน
พร้อมมองว่า การกระทำของหมอบุญนั้น เป็นไปเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลในการจัดหาวัคซีน และเป็นการทำให้หุ้นของบริษัทสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งพอมีข่าวว่ามีการดีลวัคซีน 20 ล้านโดส หุ้นขึ้นไปสูงถึง 13.45 แตพอยอมรับว่าซื้อไม่ได้ หุ้นตกลงมาเหลือ 8 จึงเป็นการสร้างความเสียหาย เดือดร้อนต่อผู้ที่ซื้อหุ้น จึงเชื่อว่า สิ่งที่หมอบุญพูดทั้งหมดเป็นเพียงวาทกรรมลวงโลก และสุดท้ายก็เป็นวัคซีนที่ไม่มีจริง
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร